มุมมืดห้องฉุกเฉิน: ตบหัวพยาบาล
บางทีญาติคนไข้ก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน
ผมเล่าให้ฟัง...
“กริ๊ง กริ๊ง” เสียงกริ่งดังสองครั้งในห้องฉุกเฉิน
เป็นสัญญาณบอกว่ามีเคสด่วน
ต้องออกไปรับที่เกิดเหตุ
.
ผมกำลังกินข้าวอยู่ในห้องครัว
ก็เป็นอันว่าต้องวางช้อนส้อมทันที
ปิดฝาชีครอบ หวังว่าคงได้กลับมากินอีก
.
“แจ้งเหตุหญิงสูงอายุหมดสติครับหมอ...
หมู่บ้านใกล้ๆนี่เอง”
เจ้าหน้าที่ทีมฉุกเฉินรายงานเคสให้ผมทราบ
.
รถพยาบาลจอดรอหน้าประตูห้องฉุกเฉิน
เปิดไฟกระพริบสีน้ำเงินสลับแดงเรียบร้อยแล้ว
.
“ขึ้นรถเลยครับ ไม่ลืมอะไรนะ?”
.
คือ ผมต้องเช็คก่อนเสมอ
ว่าเราเอาอุปกรณ์ไปครบหรือเปล่า
.
มีอยู่ครั้งนึงลืมเอาหน้ากากช่วยหายใจคนไข้ไป
ไปถึงที่บ้านคนไข้ เปิดกระเป๋าสีแดงใบใหญ่
ปรากฎว่าอุปกรณ์ไม่ครบ
.
งานเข้าเลยครับ
.
ประสบการณ์สอนให้ผมต้องระมัดระวัง
ทุกครั้งที่ออกรับเหตุ
.
ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงบ้านคนไข้
เป็นหญิงวัยชรา ทีมกู้ชีพก่อนหน้า...
กำลังกดหน้าอกปั๊มหัวใจอยู่
.
พยาบาลฉุกเฉินก็รีบหยิบเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ
ไปติดที่หน้าอกคนไข้โดยเร็ว
.
“หยุด! รอเครื่องอ่านก่อน”
พยาบาลแบมือทั้งสองข้างยกขึ้นระดับอก
เป็นสัญญาณบอกให้กู้ชีพที่กำลังปั๊มหัวใจ
หยุดกดหน้าอก ....
.
เพราะเราต้องให้เครื่องกระตุกไฟฟ้า
ประเมินก่อนว่า...
ต้องรักษาด้วยการช็อตไฟฟ้าหรือไม่?
.
“วีเอฟ... เตรียมช็อค”
ผมบอกทีมให้เตรียมพร้อม
ให้ทุกคนเอามือออกจากคนไข้
เพราะผมกำลังจะกดปุ่มปล่อยกระแสไฟฟ้า
เข้าไปที่หัวใจคนไข้
.
หากลูกทีมไม่หลบไป
ก็อาจถูกกระแสไฟฟ้าดูดได้
ความแรงของไฟทำให้หมดสติได้เลยครับ
ส่วนคำว่า วี-เอฟ
เป็นคำศัพท์แพทย์ที่บอกว่า...
คลื่นหัวใจเต้นพริ้วครับ
.
“ผมถอย...คุณถอย...ทุกคนถอย”
ผมบอกด้วยคำพูดช้าๆ แต่หนักแน่น
สายตามองลูกทีมว่าถอยห่าง
มือไม่สัมผัสคนไข้จริงๆ
.
“ผั๊วะ!”
นี่ไม่ใช่เสียงการกระตุกไฟฟ้าครับ
.
แต่เป็นมือของผู้ชายคนนึง
ปลิวว่อนเข้ามาตบที่ศีรษะพยาบาลผู้หญิง
จนล้มคะมำ...
.
“เมิงทำเชี่ยอะไรแม่กรู”
ชายคนนั้นตะโกน น้ำเสียงดุดัน
สายตาจ้องเขม็ง ตาแดงก่ำ
.
“เมิงทำเชี่ยอะไร๊ !” เงื้อมือจะเหนี่ยว...
ตบกระบาลอีกรอบ
มีคนเข้าไปล็อกตัวห้ามไว้ทัน
.
พยาบาลกระเด็นไปกองที่พื้นเลยครับ
.
ผมโกรธมาก ในใจผมคิด
“กรูไม่ช่วยแมร่งแล้ว...
ปล่อยให้ตายไปเลย ลูกทรพี”
มาทำกับพยาบาลของผมได้ไง
.
ผมบอกตามตรงคิดจะลุกขึ้นไป...
กระโดดถีบยอดอกแล้วครับ
.
แต่สติมันพุ่งขึ้นมา
.
“เก็บของครับ...
เราจะย้ายคนไข้ออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด”
.
น้ำเสียงผมราบเรียบมาก ไร้อารมณ์
แต่เป็นคำพูดที่หนักแน่นของผมที่เป็นหัวหน้าทีม
.
ผมกำลังคุมสถานการณ์
ด้วยสัญชาตญาณของผม
อย่างน้อยผมก็มีฝ่ายคุณธรรมมากกว่าบ้าง
ทั้งๆที่ใจจริงอยากเหนี่ยวกลับมากครับ
.
หลักการหนึ่งเวลาเราดูแลคนไข้นอกโรงพยาบาล
สิ่งแรกที่ต้องรู้ นั่นคือ...
สถานการณ์ต้องปลอดภัยก่อนครับ
.
ถ้าไม่แน่ใจอย่าเข้าไปช่วยคนไข้
ไม่มีคำว่าพระเอกในทีมฉุกเฉินครับ
.
ทีมเรามากี่คน เราต้องกลับเท่านั้น
ต้องไม่มีใครบาดเจ็บเพิ่ม
.
การเสียลูกทีมสักคนเป็นสิ่งที่งานกู้ชีพ...
นอกโรงพยาบาล"ไม่"อาจยอมรับได้ครับ
.
ตรงนั้นไม่ปลอดภัยมาก
ถ้าผมลุยเดี่ยวตบคืน...
(ซึ่งผมอาจทำแน่ อย่าท้า! )
(คิดว่าผมกลัวเหรอ จะกระทืบให้คาตรีนเลย)
.
เขาอาจชักปืนมายิงตายกันหมดก็ได้
ตอนนั้นผมคิดว่าถอยดีกว่า
แต่ผมว่าไม่น่าเรียกว่า "ถอย"
น่าจะ"หนี"มากกว่าครับ
.
ลูกทีมเก็บของอย่างรวดเร็ว
คนไข้นอนอยู่บนแผ่นกระดานสีแดง...
ที่ใช้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยอยู่แล้ว
กู้ชีพคนนึงลากแผ่นกระดานพร้อมคนไข้นอน
ซึ่งปกติเราจะยกครับ แต่นี่ลากไถไปกับพื้น
เพราะเราจะหนีไงครับ
.
เรียกว่า “ไถหนี” ออกให้เร็วที่สุด
.
จากนั้นคนอื่นๆช่วยกันยกคนไข้
ขึ้นรถพยาบาลอย่างรวดเร็ว
พอเห็นภาพคำว่า “หนี” ไหมครับ?
.
ปิดประตูหลัง เราก็ปั๊มหัวใจกันต่อ
พยาบาลใช้มือข้างนึงโหนราวตรงกลางรถพยาบาล
ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงรถเมล์...
ที่มีราวจับตรงกลางครับ
มืออีกข้างก็ปั๊มกดหน้าอกคนไข้
.
มาถึงจุดนี้ ผมคิดว่าคงมีคนแย้งว่า
ทำไมปั๊มหัวใจไม่ใช้สองมือประกบกัน
ทำไมพยาบาลใช้มือเดียว
.
“พ่อเจ้าประคู้ณ รถเหยียบเกินร้อยแปดสิบ
แกว่งอย่างกับรถไฟเหาะ
แค่ดิฉันยืนปั๊มหัวใจได้
ไม่กระเด็นออกจากรถ ก็บุญแล้วค่ะ”
.
มาถึงห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล
“เออ...ยายรอดแฮะ”
หัวใจกลับมาเต้นอีก
ผมส่งไปนอนหอผู้ป่วยวิกฤติ ไอซียู
.
“สงสัยยายยังไม่หมดกรรมกับลูกทรพี”
ผมคิดในใจ ก็ยังแค้นอยู่ครับ
.
“หนูขอโทษแทนพ่อหนูด้วยนะค่ะคุณหมอ"
'แกเมา” เปิดไพ่คนเมาไม่ผิด (สาระเลว)
.
ลูกสาวชายนักตบกล่าวขอโทษขอโพย
แต่คนก่อเหตุไม่เห็นวี่แววเข้ามา
.
“หมอไม่ติดใจหรอกครับ
แต่ไปเจอกันที่สถานีตำรวจนะครับ
รอทีมผมลงเวรก่อน”
.
ผมทำสีหน้าเรียบนิ่ง
ตอบแบบไม่อยากเสวนาด้วย
.
สุดท้ายก็โดนปรับไปแค่ห้าร้อยบาท
ข้อหาทำร้ายร่างกายครับ แค่นั้น
สงสารพยาบาลก็ไม่ได้รับการเยียวยาอะไรเลย
.
ที่ประเทศสิงคโปร์นะครับ
ถ้าเกิดเหตุทำร้ายพยาบาลขณะปฏิบัติหน้าที่แบบนี้
คุณลูกทรพีติดคุกไปแล้วครับ
.
สุดท้ายถ้าเหตุการณ์วันนั้นผมใจร้อน
ไม่ยั้งมือ ยั้งอารมณ์
.
ผมคงไม่มีโอกาสมาเขียนหนังสือ
ให้ผู้อ่านได้รับรู้เรื่องราวในห้องฉุกเฉินครับ
ผมคงจมกองเลือดอยู่ที่บ้านคนไข้แล้วครับ
.
บางครั้งคนทำร้ายเราก็คือญาตินี่แหละ
เสี้ยวนึงในมุมมืดห้องฉุกเฉิน
.
#ห้องฉุกเฉินต้องรู้
Comentarios