เห็นคนไข้ในภาพนี้ เราจะให้การรักษาอย่างไรดีครับ
ผมโพสต์ถามไปคราวก่อน หลายท่านกรุณาให้ความเห็น
ขอบพระคุณมากครับ คำตอบก็เช่น ห้ามเลือด
ปิดแผลที่หน้าอก เป็นต้น
.
สมัยยี่สิบปีก่อน เราก็รักษาคนไข้อุบัติเหตุกันแบบนี้ครับ
คือเห็นการบาดเจ็บตรงไหนก็รักษาตรงนั้น
เช่น เห็นเลือดออกมากที่แขนซ้าย
ก็เอาขันชะเนาะไปขันจนเลือดหยุดไหล
.
แต่มันก็จะพลาดซิครับ พลาดสิ่งที่เรามองไม่เห็น
เช่น คนไข้รายนี้อาจจะมีเยื่อหุ้มปอดรั่วก็ได้
เพราะรถเหยียบหน้าอก บดขยี้ มีบาดแผลฉกรรจ์
สิ่งที่อยู่ด้านล่าง เช่น ซี่โครง เยื่อหุ้มปอดน่าจะฉีกขาด
หากมากกว่านั้น ตำแหน่งนี้คือด้านซ้าย
อาจกระทบกับหัวใจ มีเยื่อหุ้มหัวใจมีเลือดคั่งก็ได้
.
คนไข้เดินถนน แล้วถูกรถชน รถก็ลากไปไกล
อวัยวะในช่องท้องไม่น่าจะเหลือ
อาจจะมีตับแตก ม้ามแตก
แม้แต่เส้นเลือดแดงเอออร์ต้า ฉีกขาดก็ได้
ซึ่งเรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็นครับ
พอไม่เห็นเราก็จะไม่รักษาไงครับ
.
แล้วกระดูกล่ะครับ กระดูกไม่น่าจะเหลือ
ถ้ากระดูกต้นแขนหัก เรามองเห็นแขนเบี้ยวผิดรูปร่าง
เราก็เริ่มดามกระดูกแขน
แต่ยังมีกระดูกอีกชิ้นที่อาจหัก แต่เรามองไม่เห็นก็มี
นั่นคือ กระดูกอุ้งเชิงกราน
มันก็คือกระดูกสะโพก กระดูกหัวหน่าวครับ
ตรงนี้มีเส้นเลือดอยู่เป็นจำนวนมาก
หากกระดูกอุ้งเชิงกรานแตก จะเสียเลือด
ปริมาณมาก คนไข้อาจช็อกตายก่อนได้
การรักษาด้วยการรัดสะโพกจึงสำคัญมาก
.
แล้วสมองหล่ะครับ คนไข้น่าจะซึม
เขาซึมจากช็อกเสียเลือด หรือเขามีเลือดออกในสมอง
เราจะทราบได้อย่างไร
นี่เรายังไม่ได้พูดเรื่องกระดูกคอเลยครับ หักหรือเปล่า
แล้วยังมีทางเดินหายใจอีก ต้องใส่ท่อช่วยหายใจไหม
.
อ่านแล้วดูเยอะใช่ไหมครับ แล้วเราจะจำได้ยังไง
คือ ยุคนี้ เรารักษาคนไข้อุบัติเหตุอย่างเป็นระบบครับ
หลายท่านอาจเคยได้ยินหลักสูตร
PHTLS, ATLS เป็นต้น
เขาจัดระบบความคิดในการดูคนไข้อุบัติเหตุ
ให้รู้ลำดับว่าควรทำอะไรก่อนหลัง
เพื่อจะได้พลาดน้อยที่สุด
ปรัชญาของทุกหลักสูตรจะมีแก่นเดียวกัน
แต่รายละเอียดก็แล้วแต่สถานการณ์
เช่นการดูแลคนไข้บนถนน
ก็อาจจะต่างกับการรักษาบนเตียงฉุกเฉินบ้าง
.
แล้วแก่นมันคืออะไรที่ตรงกันบ้าง
1. สถานการณ์ต้องปลอดภัย
การเข้าไปช่วยคนไข้อุบัติเหตุ ต้องแน่ใจ
ว่าสถานที่ปลอดภัยหรือยัง เช่น เหตุการณ์ระเบิด
เรามั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดระเบิดลูกที่สอง
.
ผมเคยเข้าไปช่วยเหตุการณ์คนไข้ต่างชาติคลั่ง
ถือมีดวิ่งไปทั่วชายหาด
สิ่งที่ทีมกู้ชีพทำคือ อยู่ในรถพยาบาล ยังไม่ออกไป
และขอความช่วยเหลือตำรวจครับ
.
ถ้าเราดุ่ยๆเข้าไป เราโดนแทง
ทีมกู้ชีพต้องเปลี่ยนภารกิจมากู้ชีพเราแทน
คนไข้ที่โดนแทงก่อนหน้าก็จะไม่มีใครมาช่วย
เซฟตัวเรา ก็คือเซฟคนไข้ด้วยครับ
.
2. อุปกรณ์ป้องกันตัวที่ดี
เราอาจได้รับการบาดเจ็บจากการเข้าไปช่วยก็ได้
เช่น โรงงานแอมโมเนียระเบิด
ถ้าเราวิ่งเข้าไปเอาคนไข้ออกมา
เราก็จะสูดไอของแอมโมเนียได้
ระยะเวลาไม่นาน เราจะสำลัก น้ำท่วมปอด
แล้วเราก็จะหมดสติครับ
สรุปช่วยใครไม่ได้เลย
.
หรืออุบัติเหตุ คนไข้เลือดออกมาก
ถ้าเราสัมผัสเลือดเขาโดยตรง
เราอาจติดเชื้อหลายชนิดที่ผ่านทางเลือดได้
ถุงมือทางการแพทย์จึงสำคัญ
หากไม่มีก็ต้องประยุกต์เอาว่าจะใช้อะไร
ที่ป้องกันเลือดและสารคัดหลั่งได้ครับ
.
3. การห้ามเลือดที่ไหล-นองถึงตาย
คิดถ้าคนไข้โดนปาดคอ โดนเส้นเลือดแดง
เลือดพุ่งกระฉูดถึงเพดาน กี่นาทีตายครับ
ถ้าไม่ห้ามเลือด ไม่ถึงนาทีเลือดหมดตัว ตายครับ
การกดห้ามเลือดจึงสำคัญมาก
.
แล้วร่างกายคนเรามีเลือดอยู่กี่ซีซีครับ
เราคำนวณ70คูณน้ำหนักตัว
เช่น เราหนัก 60กิโลกรัม
เราจะมีเลือด 60คูณ70 เท่ากับ 4200ซีซี
หรือประมาณ4ลิตร
ประมาณน้ำถังหนึ่งขวดครับ
ถ้าเราเสียเลือด เราไม่มีถังเลือดสำรองในร่างกาย
เลือดหมด เราก็ตายครับ
จะปั๊มหัวใจยังไงก็ไม่รอด ถ้าเรายังเสียเลือดอยู่
ดังนั้นการห้ามเลือดสำคัญมาก
.
การห้ามเลือดที่เร็วและได้ผลดีคือ การกดครับ
เราเริ่มกดหน้าเลือดก่อนเลย
เช่น ระเบิดตู้ม ขาขาด เราเห็นเลือดไหลพุ่ง
เรากดที่แผล กดแน่น
.
เดี๋ยวผมมาเขียนต่อนะครับ
บทความนี้น่าจะยาวมาก
แต่มีประโยชน์ครับ
ผมมีบรรยายเช้านี้ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ครับ
กลับมาอ่านต่อกันนะครับ
Comments